วันอังคารที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2553

F-22 สุดยอด (หรือเปล่า) เครื่องบินรบของอเมริกา


F-22 ฝูงบินพร้อมรบฝูงแรกที่ฝูงบินขับไล่ที่ 27 Langley Air Force Base, Virginia


หลังจากพูดเรื่องอาวุธไทย ๆ ใกล้ตัวมามากแล้ว ผมลองเปลี่ยนแกนมาพูดเรื่องอาวุธต่างประเทศบ้างดีกว่าครับ และผมว่า F-22 นี่แหละเหมาะที่สุด เพราะมันเพิ่งเข้าประจำการอย่างเป็นทางการเมื่อไม่กี่เดือนมานี้เอง

F-22 ถือได้ว่าเป็นเครื่องบินแบบใหม่ล่าสุดของกองทัพอากาศสหรัฐที่นับได้ว่ามีประวัติการพัฒนายาวนานมาก โดยเครื่องต้นแบบ YF-22 ของ Lockheed Martin ซึ่งชนะเครื่องต้นแบบ YF-23 ของ Northrop Gramman นั้นขึ้นบินเครั้งแรงในปี 1980 จนถึงวันนี้ก็ 26 ปีพอดีจึงจะสามารถจัดตั้งฝูงบินพร้อมรบได้ (หมายความว่า F-22 พร้อมเข้าสู่สงคราม)



สหรัฐนั้นเริ่มโครงการ F-22 ด้วยความกังวลเกี่ยวกับเวหานุภาพของโซเวียตที่นักวิเคราะห์คาดการกันว่าถ้าเครื่องบินทั้งหมดของโซเวียตเข้าโจมตีสหรัฐแล้ว เครื่องบินทั้งหมดของสหรัฐจะต้องถูกทำลายภายในเวลาแค่ 17 วัน หนทางเดียวที่สหรัฐคิดออกในขณะนั้นคือสร้างเครื่องบินที่บินได้เร็ว สูง และที่สำคัญ "ตรวจจับได้ยาก" (สังเกตุว่าผมไม่ใช้คำว่าตรวจจับไม่ได้ เพราะในโลกนี้ไม่มีเครื่องไหนสามารถทำได้) โครงการนี้ยังถูกเร่งให้เร็วขึ้นอีกด้วยเหตุการณ์การฝึกที่ Cope India 2004 ที่ F-15 ของอเมริกาถูก Su-30MK3 ของอินเดีย "ยิงร่วง" ยกหมู่ จึงทำให้เหล่านายทหารระดับสูงและเจ้าหน้าที่กระทรวงกลาโหมมีความหวั่นใจเป็นอย่างมาก จึงทำให้เจ้า F-22 ลืมตาดูโลกได้ในปีนี้

หลังจากหมดเงินไป 41พันล้านเหรียญและความต้องการขั้นต้นที่ประมาณ 800 เครื่อง กองทัพอากาศสหรัฐถูกตัดลดงบประมาณลงเรื่อยมาจนทำให้สามารถซื้อได้แค่ 183 เครื่องเท่านั้น (7 ฝูงบิน) เนื่องจากราคาต้นทุนวัสดุที่สูงขึ้นจากประมาณการมาก แถมการผลิตแต่น้อยจึงทำให้ F-22 มีราคาค่างวดที่แพงระยับที่ 180 ล้านเหรียญต่อเครื่อง ทางกองทัพอากาศเกรงว่าจะมีเครื่องบินไม่เพียงพอต่อภัยคุกคาม แต่กระทรวงกลาโหมก็อ้างเรื่องงบประมาณและลึก ๆ แล้วกระทรวงกลาโหมยังต้องการให้การผลิตและการซื้อ F-35 นั้นไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากเทคโนโลยีบางส่วนของ F-35 ใหม่กว่าและมีประสิทะภาพสูงกว่า F-22 แต่มีราคาถูกกว่าแค่เครื่องละ 40 กว่าล้านเหรียญเท่านั้น



F-22 นั้นเคยถูกเรียกว่า F/A-22 เพื่อแสดงถึงประสิทธิภาพในการโจมตีภาคพื้น แต่ต่อมาก็ถูกเปลี่ยนเป็น F-22 เหมือนเดิมด้วยเหตุผลที่จะได้ทำตามประเพณีเดิมที่เครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศนั้นจะใช้ตัวอักษร F และทุกแบบก็มีความสามารถในการโจมตีภาคพื้นดินอยู่แล้ว จึงไม่จำเป็นต้องมีอักษร A แต่ประการใด
F-22 นั้นมีความสามารถในการบินด้วยความเร็วเหนือเสียงได้โดยไม่ต้องเปิด Afterburn ซึ่งเรียกความสามารถนี้ว่า "Super Cruise" ทำให้ลดการสิ้นเปลืองเชื้อเพลิงไปได้มากทีเดียว โดย F-22 มีรัศมีปฏิบัติการที่ 1000 กิโลเมตร มีเรด้าห์ AN/APG-77 AESA (Active Electronic Scan Array) ที่ทันสมัย มีระบบ Datalink โดยมีลักษณะการทำงานแบบเดียวกับระบบ Datalink ที่ติดตั้งอยู่ใน JAS-39 Gripen (สนใจลักษณะการทำงานกรุณาคลิ้กไปดูบทความเรื่องJAS-39 ครับ) F-22 สามารถบินได้ที่ความสูงที่สูงถึง 66,000 ฟุต เรียกได้ว่าสูงกว่าเครื่องบินแบบอื่น ๆ ประมาณ 10,000 ฟุตเลยทีเดี


เครดิต

http://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=skyman&month=04-2006&date=15&group=1&gblog=32

ไม่มีความคิดเห็น: